ข่าวกีฬา ติโม แวร์เนอร์ ตะบันสองจุดโทษก่อนพา “สิงห์บลูส์” เปิดรังไล่ต้อนเอาชนะ แรนส์ 3-0 ทำสถิติยังไม่เสียประตูในรายการนี้ และเก็บคลีนชีต 5 เกมติดต่อกันทุกรายการ พร้อมนำจ่าฝูงของกลุ่ม อี ต่อไปด้วยการมี 7 คะแนน ส่วนแรนส์อยู่บ๊วยยังไม่ชนะทีมใดมีแต้มเดียว ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา
ข่าวกีฬา ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อคืนวันพุธที่ 4 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันของกลุ่ม อี นัดที่สาม ระหว่างเจ้าถิ่น เชลซี เปิดเดอะ บริดจ์รับมือ แรนส์
แฟร้งค์ แลมพาร์ด เกมนี้จะหมดสิทธิ์ใช้งาน ไค ฮาแวร์ตซ์ ที่ถูกติดเชื้อโควิด-19 ทำให้สามแนวรุกวันนี้เป็น ติโม แวร์เนอร์, ฮาคิม ซิเย็ค และแทมมี่ อบราฮัม ส่วน แรนส์ ใช้ ยานน์ เชโบโฮ, แซร์กอู กีราสซี่ และ มาร์ติน แตร์ริเย่ร์
เริ่มเกมมาได้แค่ 9 นาที “สิงห์บลูส์” มาได้ลูกที่จุดโทษ หลัง ติโม แวร์เนอร์ โดน ดัลแบร์ต เลาะข้อเท้าล้มลงผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษทัแถมแจกใบเหลืองให้ ดัลแบร์ต ก่อนที่ แวร์เนอร์ จะลุกมาสังหารเสียบมุมเข้าไปไม่พลาดให้ เชลซี ขึ้นนำ 1-0
นาที 38 เฟลิกซ์ ซวาเยอร์ ผู้ตัดสินชาวเยอรมัน ต้องเช็ก VAR จากข้างสนาม หลัง แทมมี่ อบราฮัม ซัดนอกกรอบไปติด ดัลแบร์ต ซึ่งจากภาพบอลไปชนแขน ดัลแบร์ต จริงๆและผู้ตัดสินก็ยืนยันให้จุดโทษแก่เจ้าถิ่น และแจกใบเหลืองให้ ดัลแบร์ต เป็นเหลือที่สองโดนไล่ออกจากสนาม ก่อนที่ ติโม แวร์เนอร์ จะสังหารเข้าไปไม่พลาด เป็นประตูที่สองของเจ้าตัวในเกมนี้ และพา เชลซี ออกนำ 2-0
จบครึ่งแรก เชลซี ออกนำ แรนส์ 2-0
ครึ่งหลัง นาที 49 “สิงห์บลูส์” ที่ตัวมากกว่าขึงเกมรุกก่อนทันที คราวนี้ เบน ชิลเวลล์ ครอสไปเสาไกลให้ ฮาคิม ซิเย็ค วิ่งมาซัดด้วยซ้ายแบบไม่จับบอลพุ่งเหินคานออกไป
กระนั้นอีก นาทีถัดมา เชลซี มานำห่าง 3-0 จนได้ คราวนี้ ซิเย็ค จ่ายสั้นๆขึ้นหน้าให้ รีซ เจมส์ วิ่งมาครอสเข้าไปในกรอบ 6 หลา แทมมี่ อบราฮัม วิ่งมาแปด้วยซ้ายเข้าไปอย่างเฉียบขาด
นาที 69 แรนส์ เกือบได้ลุ้นตีไข่แตก หลัง เฌเรมี่ โดกู ได้ซัดด้วยซ้ายแต่บอลยังไม่ผ่านมือ เอดูอาร์ เมนดี้ ปัดออกหลัง
นาที 74 เชลซี เกือบได้เม็ดที่สี่นำห่าง หลังตัดบอลจากแดนแรนส์ได้ และเป็น ฮาคิม ซิเย็ค ที่แทงทะลุช่องให้ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปซัดติดตัว อัลเฟร็ด โกมิส
ช่วงเวลาที่เหลือ ไม่มีสกอร์เพิ่มเติม จบเกม เชลซี ไล่ต้อนเอาชนะ แรนส์ 3-0 เก็บสามแต้มมีเพิ่มเป็น 7 คะแนนนำจ่าฝูง ชนิดที่ยังไม่เสียประตูให้ทีมใด พร้อมทำสถิติคลีนชีทถึง 5 เกมติดต่อกัน ส่วน แรนส์ ยังไม่ชนะทีมใดจมบ๊วยของกลุ่ม มีแค่ 1คะแนนเท่านั้น
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เชลซี (4-3-3) : เอดูอาร์ เมนดี้ – รีซ เจมส์, ติอาโก้ ซิลวา (อันโตนิโอ รือดิเกอร์ น.68), คัวร์ท ซูม่า, เบน ชิลเวลล์ (เอเมอร์สัน น.63) – จอร์จินโญ่, เอ็นโกโล่ ก็องเต้ (มาเตโอ โควาซิช น.63), เมสัน เมาน์ท – ติโม แวร์เนอร์, แทมมี่ อบราฮัม (โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ น.63), ฮาคิม ซิเย็ค (คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย น.75)
ผู้จัดการทีม : แฟร้งค์ แลมพาร์ด
แรนส์ (4-1-4-1) : อัลเฟร็ด โกมิส – อามารี่ ตราโอเร่, ดาเมียง ดา ซิลวา, นาเยฟ อากีร์, ดัลแบร์ต (ใบแดง น.40) – สตีเว่น เอ็นซอนซี่ (เคลม็องต์ เกรนิเย่ร์ น.62) – ยานน์ เชโบโฮ (โรแมง เดล กาสตีโย่ น.62), เจมส์ เลีย ซิลิกี้ (อาเดรียง ทรูว์แฟร์ น.46), แบ็งฌาแม็ง บูริโฌด์, มาร์ติน แตร์ริเย่ร์ (เฌเรมี่ โดกู น.62) – แซร์กอู กีราสซี่ (อาเดรียง อูนู น.76)
ผู้จัดการทีม : ฌูเลียง สเตฟ็อง
ผู้ตัดสิน : เฟลิกซ์ ซวาเยอร์ (เยอรมัน)
