ข่าวกีฬา ต้องรอด : โศกนาฏกรรมทีมรักบี้อุรุกวัย ที่เอาชีวิตรอดด้วยการกินกันเอง
ข่าวกีฬา “ผมต้องเอาชีวิตรอดให้ได้” โรแบร์โต คาเนสซา หนึ่งในผู้โดยสารในเที่ยวบิน 571 กล่าว
การรอดชีวิตจากเครื่องบินตกถือเป็นเรื่องปาฏิหาริย์ แต่การเอาตัวรอดจากเครื่องบินตกบนเทือกเขาอันหนาวเหน็บ ที่ไร้ซึ่งอาหาร และเสื้อผ้าที่เหมาะสม นั้นยากยิ่งกว่า
พบกับเรื่องราวของทีมรักบี้อุรุกวัย กับภารกิจ “ต้องรอด” ที่ทำให้พวกเขาต้องทำในสิ่งที่ไม่มีทางเลือก ด้วยการกินเนื้อมนุษย์
ติดตามเรื่องราวของพวกเขาได้ที่นี่
โศกนาฏกรรมที่ไม่ทันตั้งตัว
มันดูเหมือนเป็นวันธรรมดาวันหนึ่งของพวกเขา เมื่อ โอลด์ คริสเตียน คลับ สโมสรรักบี้จากประเทศอุรุกวัย ต้องเดินทางไปแข่งรักบี้ที่ประเทศชิลี ทำให้ ดาเนียล ฮวน ประธานสโมสรอำนวยความสะดวกด้วยการเช่าเครื่องบินเหมาลำจากกองทัพอากาศอุรุกวัย เป็นพาหนะรับส่ง
เที่ยวบิน 571 คือชื่อของเที่ยวบินนั้น มันเป็นเที่ยวบินที่มีผู้โดยสาร 40 คนและลูกเรืออีก 5 คน ที่นอกจากทีมรักบี้ ยังมีเพื่อน และครอบครัวที่ตามมาเชียร์ โดยออกเดินทางจากสนามบินมอนเตวิเดโอ เมืองหลวงของอุรุกวัยในวันที่ 12 ตุลาคม 1972 และมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่กรุงซานติอาโก ประเทศชิลี
อย่างไรก็ดี ด้วยสภาพอากาศที่ไม่ค่อยจะสู้ดีนัก โดยเฉพาะพายุหิมะบนเทือกเขาแอนดีสที่ต้องบินผ่าน ทำให้กัปตันต้องนำเครื่องลงจอดชั่วคราวและพักค้างคืนที่เมนโดซา ประเทศอาร์เจนตินา เพื่อความปลอดภัย
บ่ายของวันศุกร์ที่ 13 ตุลาคม เครื่องบินก็ทะยานจากสนามบินอีกครั้ง แต่เนื่องจากผู้โดยสารที่เต็มลำ ทำให้เครื่องบินไม่สามารถบินได้สูงกว่า 22,500 ฟุต (ราว 6,900 เมตร) จึงต้องใช้เส้นทางทางใต้ที่ปลอดภัยกว่า
อย่างไรก็ดี ด้วยสภาพอากาศที่ย่ำแย่ โดยเฉพาะหมอกที่ลงจัดจนบดบังทัศนวิสัย ทำให้กัปตันเข้าใจผิดว่า พวกเขากำลังเข้าใกล้เมือง Curico ของชิลี ทั้งที่จริงมันยังอยู่ห่างออกไปถึง 70 กิโลเมตร
การคิดเช่นนั้น ทำให้นักบิน ลดระดับการบินเพื่อลงจอด และทำให้พวกเขาเจอกับภูเขาสูงตระหง่านที่อยู่ตรงหน้า นักบินพยายามเชิดหัวเครื่องขึ้น แต่ไม่ทันการณ์ เครื่องบินกระแทกเข้ากับภูเขาจนทำให้ส่วนหางหลุด และดูดผู้โดยสารกับลูกเรือออกไปทางนั้น
“ผมกระเด็นไปข้างหน้าจากพลังอันมหาศาล และได้รับแรงกระแทกอย่างแรงที่หัว ผมคิดว่าผมต้องตายแน่ๆ” โรแบร์โต คาเนสซา หนึ่งในผู้โดยสารในเที่ยวบินลำนั้นกล่าวในหนังสือของเขา
“ผมจับเก้าอี้ไว้แน่น และท่อง Hail Mary บางคนร้องไห้และพูดว่า ‘พระเจ้า ช่วยลูกด้วย ช่วยลูกด้วย’ มันเป็นฝันร้ายกว่าที่จะจินตนาการได้ เด็กอีกคนร้องว่า ผมมองไม่เห็น ตอนที่เขาขยับหัว ผมเห็นสมองของเขา และเศษเหล็กไปอยู่ที่ท้องของเขา”
ขอบคุณข่าว : www.sanook.com
สนใจสมัครติดต่อ : ufabetsoft.com