ข่าวกีฬาต่างประเทศ เชลซี ซึ่งคว้าแชมป์กลุ่มเข้าไปเล่นในรอบต่อไปแล้ว เกมนี้โรเตชั่นผู้เล่นหลายตำแหน่งก่อนจะเป็นฝ่ายไล่ตีเสมอ คราสโนดาร์ 1-1 เพิ่มสถิติไร้พ่ายทุกรายการเป็น 14 เกมติดต่อกัน ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา
ข่าวกีฬาต่างประเทศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อคืนวันอังคารที่ 8 ธันวคม ที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันนัดสุดท้าย ของกลุ่ม อี ระหว่างเจ้าถิ่น เชลซี ที่ผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 16 ทีมสุดท้ายในฐานะแชมป์กลุ่มแน่นอนแล้ว พบกับ คราสโนดาร์ ที่ตกรอบแล้ว
เกมครึ่งแรก นาที 24 โอกาสส่องเข้ากรอบหนแรกของ คราสโนดาร์ กลายเป็นประตูบุกมานำ เชลซี 1-0 ทันทีหลัง วิคเตอร์ คเลสสัน หักบอลคืนให้ เรมี่ กาเบลล่า ซัดเสาแรกผ่านมือ เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า เข้าไป
กระนั้น แค่นาที 27 “สิงห์บลูส์” มาได้ลูกที่จุดโทษหลัง แทมมี่ อับราฮัม โดน ไคโย่ เซ็นเตอร์แบ็กคราสโนดาร์ทำฟาวล์ล้มลงไปก่อนจะเป็น จอร์จินโญ่ ทำหน้าที่ยิงจุดโทษเข้าไปไม่พลาดให้ เชลซี ไล่มาเสมอ 1-1
เจ้าถิ่นโหมบุกอย่างหนัก นาที 38 ไอ้หนู บิลลี่ กิลมอร์ ได้โอกาสส่องนอกกรอบบ้างแต่บอลยังเบาไปก่อนเข้ามือ เยฟเกนี่ โกโรดอฟ นายด่านทีมเยือน
ถัดมานาที 41 มัตเตโอ โควาซิช ได้ส่องนอกกรอบบอลพุ่งไปแฉลบ เรมี่ กาเบล่า ออกหลัง และจากลูกเตะมุมต่อมา เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า เปิดบอลมาเข้าหัว แทมมี่ อับราฮัม ขึ้นโหม่งบอลหลุดกรอบออกไป
ช่วงทดเจ็บ นาที 45+1 กิลมอร์ เรียกฟรีคิกนอกกรอบกว่า 22 หลาได้ แต่จังหวะนี้ ไค ฮาแวร์ตซ์ ปั่นข้ามกำแพงออกหลังไปไกลแบบไม่ได้ลุ้น
จบครึ่งแรก เชลซี เสมอกับ คราสโนดาร์ 1-1
ครึ่งหลัง นาที 59 จอร์จินโญ่ ครอสจากด้านขวาเข้ามาให้ แทมี่ อับราฮัม ขึ้นโขกหลุดกรอบออกไป
ถัดมาอีกนาที บิลลี่ กิลมอร์ ผ่านบอลให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ ซัดด้วยซ้ายจากนอกกรอบแต่บอลไปแฉลบติด อีกอร์ สโมลนิคอฟ ออกหลัง
โอกาสของ “สิงห์บลูส์” ยังมีมากกว่า นาที 67 แทมมี่ อับราอัม ตะบันด้วยซ้ายแต่บอลก็ยังไม่ผ่านมือ เยฟเกนี่ โกโรดอฟ ที่ปัดออกไปได้อีก
ลูกทีมของ แลมพาร์ด ยังโหมบุกเข้าใส่มากกว่า นาที 73 อันโยริช ผ่านบอลให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ ลองยิงด้วยซ้ายแต่บอลก็ยังไม่ผ่านมือนายด่านของคราสโนดาร์
ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มเติม จบเกม เชลซี เสมอกับ คราสโนดาร์ 1-1 แบ่งแต้มไปทีมละหนึ่งคะแนน โดย “สิงห์บลูส์” ที่คว้าแชมป์กลุ่มไปนานแล้วมีเพิ่มเป็น 14 คะแนน ส่วน เซบีย่า ที่นัดสุดท้ายบุกไปชนะ แรนส์ 3-1 มี 13 แต้ม ซิวรองแชมป์กลุ่ม ผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 16 ทีมสุดท้ายเช่นกัน ขณะที่ คราสโนดาร์ ได้สิทธิ์ไปเล่นถ้วยเล็ก ยูโรปา ลีก
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เชลซี (4-3-3) : เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า – เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า, อันโตนิโอ รือดิเกอร์, อันเดรียส คริสเตนเซ่น, เอแมร์ซอน ปัลมิเอรี่ – จอร์จินโญ่, มาเตโอ โควาซิช (เอ็นโกโล่ ก็องเต้ น.74), บิลลี่ กิลมอร์ – ไค ฮาแวร์ตซ์ (ติโม แวร์เนอร์ น.74), แทมมี่ อับราฮัม, ฟาอุสติโน่ อันโยริน (โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ น.81)
เทรนเนอร์ : แฟร้งค์ แลมพาร์ด
คราสโนดาร์ (4-4-2) : เยฟเกนี่ โกโรดอฟ – อิกอร์ สโมลนิคอฟ, อเล็กซานเดอร์ มาร์ตีโนวิช, คาโย่ (อีกอร์ โซโรกิ้น น.74), คริสเตียน รามิเรซ – ตอนนี วิลเฮน่า, คริสตอฟเฟอร์ โอล์สสัน (รุสลัน คัมโบลอฟ น.80) – วันแดร์ซอน (อูเกนี่ เชอร์นอฟ น.80), เรมี่ กาเบลล่า (ชาปิ ซูเลร์มานอฟ น.80), วิคเตอร์ คเลสสัน – มาร์คุส เบิร์ก (เยฟเกนี่ มาร์คอฟ น.90)
เทรนเนอร์ : มูรัด มูซาเยฟ
ผู้ตัดสิน : พาเวล คราโลเว็ช (เช็ก)